Web Blog การเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ประกอบการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ (สาระเพิ่ม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส 22102 และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส 23102 ครูชาญวิทย์ ปรีชาพาณิชพัฒนา ในการฝึกทักษะเรียนรู้พื้นฐาน การจัดการความรู้ ทักษะภาษาดิจิตอล ทักษะการรู้คิดประดิษฐ์สร้าง ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารที่มีประสิทธิผล ทักษะการสืบค้น ฯลฯ เพื่อพัฒนาไปสู่ทักษะความรู้ที่มุ่งหวังของหลักสูตร โรงเรียนมาตรฐานสากล 6 ประการ ประกอบด้วย (1) ทักษะการเรียนรู้ Learning Skills (2) ทักษะการคิด Thinking Skills (3) ทักษะการแก้ปัญหา Problerm Skills (4) ทักษะชีวิต Life Skills (5) ทักษะการใช้เทคโนโลยี Technology Skills (6) ทักษะการสื่อสาร Communication Skills ทฤษฎีระบบการเรียน KM (Knowlead Maneagement) โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม ประกอบการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ คุณครูชาญวิทย์ ปรีชาพาณิชพัฒนา(Word Class Standard)

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

เศรษฐกิจสมัยกรุงธนบุรี


เศรษฐกิจสมัยกรุงธนบุรี(2311-2319)
imagesKrungThonburi
Nu6

        ในตอนต้นสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภาวะทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ในสภาพลำบาก เนื่องจากเกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักทั้งนี้เพราะราษฎรมิได้ทำนาในระหว่างการศึกสงครามแม้ว่าภายหลังจากที่พระองค์กู้เอกราชได้แล้ว การทำนาก็ยังไม่ได้ผล เพราะฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ในการขจัดปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหารนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ ทรงรับซื้อข้าวจากพ่อค้าจากเรือสำเภา
พัฒนาการด้านความสัมพันธ์กับต่างชาติ
ขณะที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นผู้นำ คนไทยร่วมแรงร่วมใจสร้างความเป็นเอกภาพให้กับบ้านเมืองอยู่นั้น คนไทยยังมีความกังวลที่จะรักษาชาติบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย ดังนั้นความสัมพันธ์กับต่างชาติสมัยธนบุรี จึงมีลักษณะการทำสงครามตลอดสมัย ทั้งสงครามป้องกันอาณาจักรและขยายอาณาเขต ตลอดจนความสัมพันธ์ทางการค้า  สังคมสมัยธนบุรีคล้ายกับสังคมอยุธยา คือ โครงสร้างทางสังคมประกอบด้วยกลุ่มคน เช่น  กลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ได้แก่ พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ และขุนนางกลุ่มชนชั้นที่ถูกปกครอง ได้แก่ ไพร่ ทาสกลุ่มชนชั้นพิเศษ ได้แก่ นักบวช เช่น พระสงฆ์ และพราหมณ์  (เศรษฐกิจสมัยธนบุรี :ออนไลน์)

***เศรษฐกิจ ผลจากการเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าในวันที่7 เมษายน พ.ศ.2310 ปรากฏว่าบ้านเมืองมีสภาพคล้ายเมืองร้าง บ้านเรือน ไร่นาถูกทอดทิ้ง ราษฏรจำนวนน้อยที่รอดจากความตายและการกวาดต้อนของพม่า ผู้คนอยูในสภาพอดอยากทั่วไปการกินอยู่ในสภาพแร้นแค้น ขาดทั้งอาหารและเครื่องนุ่งห่มสิ่งเหล่านี้ เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชต้องทรงแก้ไขและส่งเสริมภาวะเศรษฐกิจพร้อมกันไป
ภาวะเศรษฐกิจตอนต้นราชการ ขณะที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงขึ้นครองราชย์สมบัติ บ้านเมืองกำลังประสบความตกต่ำทางเศรษฐกิจอย่างที่สุด ขาดแคลนข้าวปลาอาหารเกิดความอดอยากยากแค้น จึงมีการปล้นสะดมแย่งชิงอาหารอยู่ทั่วไป การทำไร่ทำนาต้องหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง ในช่วงปี พ.ศ. 2311-2319 ข้าวปลาอาหารฝืดเคืองมากและยังเกิดภัยธรรมชาติซ้ำเติมทำให้ภาวะทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายอยู่แล้วกลับทรุดหนักลงไปอีก เพราะปี พ.ศ. 2311 ปรากฏว่าข้าวในยุ้งฉาง และทรัพย์สินต่างๆ มีหนูพากันมากัดกอน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรับสั่งให้ข้าราชการทหารและพลเมืองทั้งหลายจับหนูมาส่งกรมพระนครบาลทุกวันปัญหาหนูจึงสงบ ความขาดแคลนในระยะนั้นได้ทวีความรุนแรงถึงกับมีผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทรงแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยกุศโลบายอันหยาบคายทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว
ทางด้านการค้ากับต่างประเทศนั้นกรุงธนบุรีอยู่ในทำเลที่เหมาะสมสามารถเป็นเมืองท่าติดกับต่างประเทศได้สะดวก เพราะการเป็นเมืองท่าของกรุงธนบุรีนี้มีความสำคัญต่อการตั้งตัวใหม่มาก เพราะจำเป็นต้องพึ่งพาเสบียงอาหารจากภายนอก ซึ่งปรากฏว่าการค้าทำให้เศรษฐกิจของกรุงธนบุรีดีขึ้นมาก ช่วยแก้ไขปัญหาข้าวยากหมากแพงได้หลายครั้ง  (วิมล จิโรจพันธุ์ ; ประชิด สกุณะพัฒน์ และ อุดม เชยกีวงศ์.  2548: 236 ,255)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น